วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...(เรื่องการช่วยเหลือพื้นที่ค้าขาย)

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...
จุดเริ่มต้น มากจากที่เราเองเปิดร้านขายเสื้อผ้าที่ Big C สาขาบางพลี เนื่องจากทางออแกร์ไนซ์เก่าจะหมดสัญญากับทางบิ๊กซีวันที่ 31 มีนาคม และแจ้งให้แม่ค้าทุกคนย้ายออกและเก็บของให้เสร็จภายใน10วัน ซึ่งเราได้รับใบแจ้งในวันที่ 21 มีนาคม แม่ค้าเริ่มรวมตัวกันและวิพากวิจารณ์ในการทำงานของออแกร์ไนส์ที่ทำกับแม่ค้าแบบนี้(โดยปัญหามันอยู่ตรง ใครจะเก็บทัน)และออร์แกไนส์เก่านี้ได้บอกกับทางแม่ค้าว่าจะออกบิลล์ให้แม่ค้าทุกคนเอาไปยืนยันกับออแกร์ไนส์ใหม่ในาราคาล็อกละ15000บาท (แต่ที่เราเสียให้ใครจริงราคาล็อกละ 20000-22000 บาท) ทำให้แม่ค้าเริ่มจับผิดสังเกตุในพฤติกรรมที่ออแกร์ไนส์เก่าทำกับเรา (คำถามคือ ทำไมตอนคุณอยู่ คุณไม่คิดราคานี้หล่ะ) ผลต่อมาก็เฉลย นั้นคือ ออร์แกไนส์เก่าบอกว่าเราต้องจ่ายค่าเช่าอุปกรณ์นั้นคือล็อกที่มีแผงกั้นในราคา 3000 ต่อเดือนให้กับใคร (และในความจริงที่ปวดร้าวคือ ทางออแกร์ไนส์เก่าเก็บเงินค่าอุปกรณ์ในราคา 20000 กว่าบาทกับแม่ค้าที่อยู่กับออร์แกไนส์มายาวนาน นั้นหมายถึง ออร์แกไนส์เก่า เอาอุปกรณ์ที่ทางแม่ค้าจ่ายเงินไปมาให้เราเช่าต่ออีกทีนึง ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางแม่ค้ารับไม่ได้จริงๆ จึงเริ่มมีการรวมตัวเพื่อหาคำตอบขึ้น
Mr.T เริ่มต้นเรื่องวันที่ 21มีนาคม2557 Part 1

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...2
ในวันที่ 25 มีนาคม ทางออแกร์ไนส์เก่ายื่นใบแจ้งหนี้มาให้แล้วบอกให้เราไม่ต้องจ่ายแต่จะหักจากเงินประกันที่เค้าเก็บเราไป 2 เดือนก่อนขาย พอผ่านมาอีก3 ชั่วโมงมาบอกใหม่ให้แม่ค้าไปจ่ายบิลล์ตามเดิมที่ทุกคนเคยจ่าย ซึ่งเสียไม่เท่ากันในแต่ละล็อก (คำถามที่แม่ค้าสงสัย ทำไมออแกร์ไนส์เก่าต้องเข้ามาเก็บค่าที่อีก ในเมื่อคุณต้องมาคืนเงินประกันเราและไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับตรงนี้แล้ว เพราะแม่ค้าส่วนใหญ่เริ่มไม่ไว้ใจและไม่พอใจในการทำงานของออร์แกไนส์เก่า ดูเหมือนจะไม่ยอมที่จะเสียผลประโยขน์ของตัวเองที่ยื่นมาให้แม่ค้า แต่แม่ค้าส่วนใหญ่ไม่เอา เพราะเริ่มมองเห็นความเห็นแก่ได้ของออร์แกไนส์เก่า (ความไม่พอใจของแม่ค้าเริ่มมากขึ้น) หลังจากนั้นแม่ค้ารวมตัวกัน เพื่อ ไถ่ถามออแกร์ไนส์ใหม่และเก่าว่าจะเอาอย่างไร ทางออร์แกไนส์ใหม่นั้น ส่งคนมา...หาแม่ค้า แต่มาเพื่อเก็บเงินกับทางแม่ค้าอย่างเดียว โดยไม่มีรายละเอียดว่าจะทำอย่างไร และดำเนินการอย่างไรกับการจัดการต่อไปในอนาคต ทางออร์แกร์ไนส์เก่าบอกคำเดียว ถ้าไม่มาจ่ายเงินถือว่าไม่ต่อสัญญา จะไม่คืนเงินประกัน (ส่วนใหญ่จึงเริ่มรวมตัวกัน และให้ผมเป็นหนึ่งในแกนนำที่จะเจรจาขอเรียกร้องเพื่อถามความชัดเจนในการทำงาน)
Mr.T วันนี้วันที่ 25มีนาคม2557 Part 2

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...3
ในวันที่ 25 มีนาคม เมื่อแม่ค้ารวมตัวกันในพื้นที่บิ๊กซี ทางบิ๊กซีเมื่อทราบว่ามีปัญหาจึงส่งคนลงมาพูดคุยกับแม่ค้า ผมต้องสารภาพตรงๆเรื่องหนึงครับ ว่าที่ทางบิ๊กซีส่งคนลงมาคุย บุคคลิกของผูเจรจานั้นเปิดกว้างมาก ดูเป็นคนที่ไม่มีเอนเอียงฝ่ายใด คือเราฟังว่าแม่ค้าคิดอย่างไรแล้วนำ ปัญหานี้ไปพูดคุยให้ออแกร์ไนส์เก่าและใหม่ฟัง (ในตอนนั้นผมยังไม่ทราบจริงๆว่าพี่คนที่มาคุยเค้าอยู่ในตำแหน่งใดของบิ๊กซี แต่พอเราได้พูดคุยกับพี่เค้า มันทำให้เราซึ่งเป็นแม่ค้ารู้สึกได้ว่า บิ๊กซี ห่วงใยเราและให้ความสำคัญกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นเพื่อร่วมกันแก้ไข (ผมรู้สึกนับถือนำ้ใจ ความตั้งใจ ความเข้าใจที่เหมาะสำหรับคนทำงานที่ดีคนนึงจริง มันสบายใจที่เค้ายังรับฟังปัญหาเราเพื่อเอาไปแก้ไข)จนมีคนมาบอกผมว่า พรุ่งนี้ M10(คือพนักงานบิ๊กซีคนที่ดูแลพื้นที่ให้เช่า)เค้านั้นคุยกับเราตอนบ่าย 2 โมง เพื่อจะคุยแก้ปัญหาโดยเชิญออแกร์ไนส์ใหม่และเก่ามาพูดคุยด้วย
Mr.T วันนี้วันที่ 25มีนาคม2557 Part 3

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...4
ในวันที่ 26 มีนาคม ตัวผมเองขอบอกเลยครับว่านอนไม่หลับ เพราะต้องคิดถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นภายในวันนี้ ผมสรุปให้ฟังแบบนี้ครับ..ผมคาดเดาว่าโต็ะเจรจาที่จะเกิดขึ้นนี้ มันจะคุยกันไม่จบและไม่ได้ เพราะ ต่างคนต่างมีเหตุผลส่วนตัวในการคิดและทำแตกต่างกัน ออแกร์ไนส์เค้าต้องมาทำกำไรเพื่อให้ได้ผลประโยชน์สูงสุดสำหรับเค้าอยู่แล้ว ทางด้านแม่ค้า ที่ผมกลัวมากคือ มันต้องมีคนที่พอใจและไม่พอใจอย่างแน่นอนกับบสิ่งที่จะทำ เพราะจะให้ถูกใจทุกคน คงเป็นไปได้ยาก และเมื่อเค้าให้แกนนำมาพูดคุยกัน ผมเองก็บอกกับทางตัวแทนแม่ค้าเลย ว่าตัวผมเองจะไม่ว่าร้ายใคร ที่เราทำอยู่นั้นไม่มีผิดหรือถูกแต่ตัวเราเองนั้นรักษาสิทธิของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์เช่นกัน แต่แม่ค้าส่วนใหญ่ อยากขึ้นไปเพื่อ ต่อว่าออร์แกไนส์เก่าซะมากกว่า ผมจึงบอกกับแม่ค้าว่าผม ไม่อยากไปเป็นตัวแทน เพราะยังไง ก็ต้องโดนว่าทั้งหน้าและหลังอยู่แล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ แสดงว่า สถานการณ์ในการเจรจาเราจะควบคุมไม่ได้ สรุปตบท้ายไม่ทันไร แม่ค้าก็เริ่มทะเลาะกันเองแล้วครับ....เฮ้อ ...สัพัก ทางแม่ค้าไปขร้องแม่ผมให้มาพูดกับผมเพื่อไปช่วยเป็นตัวแทนในการเจรจา และประโยคที่ผมบอกกับแม่ ตัวเองคือ แม่รู้ไหม ที่ เราทำแบบนี้ จะไมม่ใครขอบคุณเราหรอกน่ะ แต่จริงแค่ขอให้เค้ายังไม่เกลียดเราเป็นพอ แม่บอกไม่เป็นไรอะไรจะเกิดมันต้องเกิด ผมบอกแม่ว่าถ้าเป็นแบบนั้น เราแพ้ตั้งแต่ยังไม่คุยแล้ว เพราะมันไม่ได้เรียกการเจรจา แต่มันกลายไปเป็นต่อว่าเค้ามากกว่า แม่บอกช่างมัน ให้ไปทำหน้าที่แทนแม่ค้าเค้าหน่อยเค้าเรียกร้องมา (ในใจผมตอนนั้นรู้สึกยังไง รู้ไหมครับ แม่ส่งเราไปแดนประหาร โดยเราต้องรับทุกอย่างเต็มๆจากนี้ไป)
Mr.T วันนี้วันที่ 26มีนาคม2557 Part 4

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...5
ต้องสารภาพตรงๆครับ ว่าก่อนไปเจรจา ตัวเผมเองได้มีแนวทางและ คาดเดาไว้แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น...จากนี้ไป ....
แล้วก็ถึงห้องเจรจา ดูM10ของบิ๊กซีบางพลีจัดการประชุมน่ะครับ ห้องทำงานของเอ็ม10อยู่ด้านหลัง Food Court ให้แม่ค้าที่เป็นตัวแทนไปเอาเก้าอี้มาเองและหยิบมานั่งรวมกันในห้องทำงานที่M10อยู่ซึ่งเล็กมากๆๆๆ เล็กไม่พอเสียงเครื่องทำนำแข็งดังมากในขณะที่พูดคุยกัน ผมจึงพูดขึ้นว่า โทษน่ะครับ พี่จะประชุมที่นี่หรือ แล้วจะนั่งกันพอได้ยังไง รู้ไหมครับ M10ของบิ๊กซีพูดว่าอะไร คนอื่นเค้าก็นั่งได้ทำไมคุณจะนั่งไม่ได้ ผมบอกไม่ใช่นั่งไม่ได้ แต่มันดูแล้วไม่เหมาะสมที่จะนั่งเจรจากันมันเล็กไปและเสียงดังครับ (ที่ผมงงไปกว่านั้นคือ)ออร์แกไนส์หใม่ ลุกขึ้น ชี้หน้าผมครับ แล้วบอกว่า ถ้าไม่อยากเจรจาก็ออกไปเลย ไม่มีใครต้องการคุณ(คำตอบในการเจรจาได้ตั้งแต่ยังไม่เริ่มเลยครับ)นั้นคือทางออแกร์ไนส์ไม่ด้ตั้งใจมารับฟังอยู่แล้ว และทางM10ของบิ๊กซี ก็ไม่ได้ใส่ใจให้เกียรติและตั้งใจจะแก้ปัญหาเลย ไม่พอน่ะครับ ระหว่างนั้นผมก็เข้าไปนั่งเพราะอยากให้เรื่องมันจบ (ก็หยิบกล้ิองขึ้นมาถ่ายวีดีโอ เพื่อที่จะเอาไปให้แม่ค้าดูครับว่าเราเจรจาอะไรกัน เพราะไม่งั้นแม่ค้าจะต้องมารุมถาม แล้วตัวแทนที่เข้าไป 5 คน จะพูดไม่เหมือนกัน สู้เอาไปให้เค้าดูดีกว่า) ออแกร์ไนส์คนเดิมก็โวยวายขึ้นอีกครับ บอกว่าผมไม่ให้เกียรติ M10 เพราะไม่ถามไถ่เค้าก่อนแล้วทำแบบนี้ไม่มีมารยาท ปัญหามันก็เป็นแบบนี้หล่ะครับ ผมคาดไว้แล้ว เพราะถ้าตัวเค้าตั้งใจมารับฟังจริง เค้าจะไม่กลัวอะไรเลย กลายเป็นเค้าเปลี่ยนประเด็นไปเรื่อยๆ หาเรื่องไม่จบ (ผมก็ยอมหยุดถ่ายวีดีโอ) เค้าก็หันมาเล่นงานที่ผมทันทีเรื่องของมารยาท เรื่องที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ทาง M10 ของบิ๊กซีไม่ได้ที่จะต้องการให้แก้ปัญหานี้เลย เพราะในระหว่างที่พูดไป หน้าเค้าจ้องหน้าผมเขม่งแบบจะกินหัวเลยหล่ะ พอถึงประเด็นตอนที่ผมพูด ผมก็บอกว่าปัญหามันมาจากเรื่องที่เราต้องการคำมั่นใจว่าออร์แกไนส์ใหม่จะจัดการยังไง M10นั้นไม่ได้รับฟังแม่ค้าเท่าที่ควรเลยครับ ตัว M10เองพูดขึ้นมาว่า ถ้าออร์แกไนส์เก่านั้นประมูลได้อีก พวกคุณจะทำยังไง คำตอบของมันคือ คนในห้องเงียบหมด แม่ค้าที่ไปเป็นตัวแทน หงอ เพราะกลัวไม่มีที่ขายของก็ยอมไปกันหมด สรุปปัญหานี้ก็ไม่ได้แก้ไข จนมีคนสงสัยว่า ทาง M10 น่าจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับทางออแกร์ไนส์อย่างแน่นอน ความจริงใจในการจะแก้ไขปัญหานั้นคนละเรื่องกับ คนที่ส่งมาเมื่อวานเลย สิ่งที่เค้าต่อ คือการข่มขู่บอกใครที่มีปัญหาต้องเจอกับผมแล้วมองมาที่ผม สรุปแล้ว เค้าต้องการจะมาเอากำไรอย่างเดียวโดยไม่สนใจแม่ค้าเลย ทางบิ๊กซีเองนั้นก็จะให้คนที่ทำงานแบบนี้มาเอาเปรียบคนในพื้นที่อย่างนั้นหรือครับ ผิดหวังจริงๆ
Mr.T หลังจากพูดคุยประชุมกัน

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...6
หลังจากเจรจาลงมา ข้อสรุปไม่ได้อะไร รับปากว่าจะพิจารณาเป็นรายบุคคลและให้แม่ค้าทุกคนกลับไปจ่ายค่าที่ดั้งเดิม นั้นคือผลสรุปที่ได้หลังจากเจรจา...เรื่องที่เจ็บปวดมากสำหรับผม คือ แม่ผมกลับมาว่าผมบอกว่า ผมใช้อารมณ์ไม่มีมารยาท เพราะแม่โดนM10 ว่ามา แม่บอกแม่ผิดหวังมากที่ผมทำตัวแบบนี้ คุณฟังแล้วรู้สึกยังไงครับ...(ทั้งทืี่เค้าขอร้องให้เราไปทำและเจ็บกว่านั้นคือเราทำเพื่อเค้า ยังไม่จบ พี่สาวตัวเอง ยังไม่ทันถามเลยว่าเหตุการณ์และสถานการณ์เป็นยังไง เข้ามาว่าต่อจากแม่เลย ว่ามึงอะทำไม่ถูก ไม่ควรไปพูดแบบนั้น ซึ้งใจไหมครับสำหรับคำว่า"ครอบครัว" เราต้องไปอยู่ในสถานการณ์นั้นก็แย่อยู่แล้ว เราเป็นคนเดียวในนั้น ที่พูดถึงเงื่อนไขและถามความชัดเจน ตามที่ทุกคนต้องการ แต่....ผลที่ได้รับ คือ !!!!!!!!!
Mr.T ตอนนี้ผมเป็นยังไงรู้ไหมครับ แม่ง !!! โคตรทรมาณ


ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...7
ข้อสรุปของบทเรียนนี้ ต้องโทษตัวเองน่ะครับ ที่ตัวเราเองทำไม่ได้อย่างใจเค้า โทษตัวเองนั้นหล่ะครับ ที่เค้าพูดว่าเราได้ แต่พอเราอธิบายเค้าไม่ฟัง โทษตัวเองน่ะครับ ที่ปฏิเสธเค้าไม่ได้ที่ต้องไปเป็นตัวแทนเค้าทั้งที่เราไม่ต้องการเป็น โทษตัวเองน่ะครับ ที่แม่งเป็นลูกที่ไม่ดีสำหรับเค้า โทษตัวเองอยู่นี่หล่ะครับ ว่าไม่สามรถเอาความรู้สึกแย่ๆเหล่านี้ออกไปจากความรู้สึกและหัวได้เลย
Mr.T จุดเริ่มต้นเรื่องยุ่งๆในชีวิต บางทีมันแบบไม่ทันตั้งตัวและเหนื่อยจริงๆ

ความทรงจำและบทเรียนในชีวิตครั้งใหม่...8
วันนี้แปลกใจมากครับ เวลาบ่าย 3โมง พี่สาวผมเดินมาบอกผมให้ไปขอโทษM10(พนักงานของบิ๊กซีที่ดูแลพื้นที่การประมูล)เพราะแม่โทรมาบอกว่าM10โกรธมากอยากให้ผมไปขอโทษ....
ผม...ฟังแล้วคิดยังไงรู้ไหมครับ...
1.ทำไมผมต้องไป ...ผมผิดอะไรหรือที่ทวงถามความถูกต้องและสิทธีของเรา ที่ไม่ยอมให้คนอื่นมาเอาเปรียบ(แล้วตัวเราไปทำร้ายเค้าตรงไหน หรือ....?)
2.ถ้าผมไม่ไปจะเกิดอะไรขึ้น... แม่ไม่สบายใจ กลายเป็นเราอกกตัญญูไม่เชื่อฟังพ่อแม่..
สรุป....ความถูกต้องที่กับกตัญญู สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน .....?
Mr.T รู้สึกได้อย่างหนึ่ง พ่อแม่เราสอนให้เราเริ่มไม่เชื่อในความดีและความถูกต้องแล้วจริงหรือ หรือเค้าปราถนาดีโดยถ้าเราไม่ทำตาม เราจะเลวทันที คุณว่าสิ่งไหนควรทำ......ดี

จุดเริ่มต้นของจุดจบ....ของประสบการณ์ชีวิต4 เมษายน 56

เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมือ ผมพึ่งมีปัญหาทะเลาะกับแม่ จากคำถามที่ผมถามแม่ว่า"แม่ไม่ถามออแกร์ไนส์ใหม่หรือ ว่าเค้าจะตั้งโต๊ะเจรจากับเราหรือเปล่า ตามที่เค้าพูดไว้ต่อหน้าบิ๊กซีและกลุ่มแม่ค้าอย่างเรา"แม่ผมตอบกลับมาว่า..."ธียังไม่จบอีกหรอ คนอื่นเค้าจบกันหมดแล้ว" ผมตอบแม่ว่า "มันจบแล้วหรือครับ ผมว่ามันเพิ่งเริ่มต่างหาก" จากนั้นแม่ก็บ่ายเบี่ยงละเปลี่ยนเรื่อง จนผลสุดท้าย พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง
สำหรับผมมีคำถามและคำตอบ อยู่ในตัวเองกับเรื่องนี้อยู่แล้ว...คุณเชื่อไหมครับ
ประเด็นแรก ที่ผมถามแม่ในสิ่งที่ควรถาม เพราะเรื่องนี้ เราอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าความถุกต้อง เราถามท่านด้วยความถูกต้อง เพราะท่าน บอกให้เรารอ และต่อว่าเราในการกระทำวันนั้น(ที่พูดคุยกันต่อหน้า ผู้ใหญ่ที่แม่ให้เกียรติมากกว่า ลูกของท่านเอง)แล้วความเป็นผู้ใหญ่ที่ ท่านๆมี วันนี้คืออะไรหรือครับ ----ไม่มีการตั้งโต๊ะเจรจาเหมือนที่รับปากไว้ -------ประเด็นนี้ผมตอบได้เลยครับ ผมคิดไว้ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เพราะถ้าผู้ที่ถือว่าตัวเองมีอำนาจ ไม่สนใจปัญหา เค้าจะไม่สนใจหรืออยากแก้ปัญหาแน่นอน---ซึ่งในความจริงข้อนี้ แม่ต่อว่าเราวั้นนั้นได้เข้าใจหรือยัง ว่าสรุปที่เราทำวันนั้นไปเพื่ออะไร
ประเด็นที่สอง ที่ผมถามแม่แบบนั้น คำตอบเรื่องนี้ ถ้าท่านมองอย่างเข้าใจและสนใจความถูกต้องจริงๆ ท่านจะตอบผมด้วย "เหตุผล ไม่ใช่ อารมณ์ครับ" แต่เวลาตอบมาจะเปลี่ยนเรื่อง เมื่อผมหาเหตุผลมาตอบท่านได้ทุกเรื่อง ก็ใช้อารมณ์กลบเกลื่อนสถานการณ์ให้หนักไปอีก จนบางทีตัวเองยังบอกกับตัวผมเองเลย นี่เราอกกตัญญู โดยที่ท่านไม่เข้าใจเลยจริงๆหรอ
ประเด็นที่สาม เรื่องของการจัดการพื้นที่ภายในบิ๊กซี สรุปเรื่องที่น่าตกใจ คือ มีคนมาบอกผมว่าค่าที่จะขึ้นอีก จากวันละ 700อาจไปถึง 900บาท เพราะออแกร์ไนส์ใหม่ต้องเช่าอุปกรณ์เพิ่มจากออแกร์ไนส์เก่า ฟังแล้วดู กลุ้มกลิ่มมากครับ เพราะแม่ผมพูดประโยคเดิมอีกแล้ว ไม่เอายายจวง(ออแกร์ไนส์เก่า) เป็นเหมือนเดิมอีก ที่ผมกลุ้มกลิ่มเพราะว่า ไม่แปลกใจเลย ไม่ตั้งโต๊ะเจรจาไม่พอ ยังขึ้นค่าที่โดยไม่พัฒนาอีก สิ่งที่เจ็บปวดกว่านั้นคือ แม่ค้าเหล่านั้นมีสองอย่างที่ต้องทำ คือ ทนอยู่ หรือ ต้องออกไปหาพื้นที่ใหม่ในการทำกิจการตัวเอง
Mr.Tผมสรุปให้ฟังครับ หลังจากผ่านเรื่องนี้มา เรื่องที่น่าตกใจมากในสังคมไทย จะมีผู้ใหญ่สักกี่คนที่เป็นคนดี คนที่พร้อมจะเข้าใจ ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ของตน จนลืมส่วนรวม บนโลกใบนี้จะมีสักกี่คนที่มองเห็นปัญหาและกล้าออกมาต่อสู้กับความไม่ถูกต้องในสังคม และน่าสงสารที่สังคมไทย คนดีๆและเก่งๆน้อยลงไปทุกที ในหลวงท่านเคยตรัสไว้ คนดีและคนไม่ดีมีอยู่ทั่วไป แต่เราจะทำยังไงให้คนดีปกครองคนไม่ดีได้เหล่า......ทรงพระเจริญ

วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

หวยเปลี่ยนชีวิต

   มีเรื่องเล่าให้ฟังครับ เมื่อวานคุณแม่บอกให้ผมช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลด่วนเลย หายใจไม่ออก อาการดูแย่มาก อาเจียน หน้าซีด ยืนไม่ไหว (เวลาประมาณ บ่า่ยหนึ่ง) คุณหมอพยาบาลรีบมาช่วยแม่กันเยอะมากเพราะแม่ดูอาการไม่ดีเลย หมอสั่งให้แม่หยุดทำงานและนอนโรงพยาบาลก่อนเพื่อพักฟื้นและดูอาการ...
(ประมาณบ่ายสีโมง หลังจากหวยออก)--- แม่ถูกหวย 60,000 บาท--- ตอนเย็นเห็นคุณแม่กลับบ้านมาได้อย่างปลอดภัย (กลับมาเองด้วย)และดูมีกำลังใจอย่างที่สุด....
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า..... หวย เปลี่ยน ชีวิต คุณ ได้ 555